ทะเบียนผู้รับบริการวัคซีน ทั้งอำเภอ ประจำเดือน มีนาคม 2557

https://app.box.com/s/qyhmwbrar6i8u5ucfce1

วินิจฉัยเยี่ยมบ้าน Cr. JHCIS HAND BOOK

ผลการดำเนินงานการคัดกรอง DM/HT ปี 2556

เกณฑ์ แฟ้ม PP ของ สปสช ปี 57

เกณฑ์ แฟ้ม MCH ของ สปสช ปี 57

เกณฑ์ แฟ้ม Nuti ของ สปสช ปี 57

เกณฑ์ แฟ้ม Chronic ของ สปสช ปี 57

เกณฑ์ แฟ้ม Person ของ สปสช ปี 57

รายงานผลการคัดกรอง NCD ตั้งแต่เดือน ตุลาคม 2555 - กุมภาพันธ์ 2556

รพ.สต.ใดติดสีเหลือง สีแดง ยังไม่ผ่านเกณฑ์นะครับ ยังมีเวลาทำให้เป็นสีเขียวถึง 31 มีนาคม 2556

อย่าลืมปรับเปลี่ยนพฤติกรรม 3 อ 2 ส กันนะจ๊ะ ครั้งที่ 1 เริ่ม 1 มีนาคม 2556

ครั้งที่ 1 เริ่ม 1 มีนาคม 2556 ครั้งที่ 2 ห่างจากครั้งที่ 1 เป็น เวลา 1 เดือนนะครับ ทำแล้วคีย์ใน JHCIS ด้วยนะ Z71.3

การเยี่ยมหลังคลอด 3 ครั้งคีย์ใน JHCIS ตามนี้เลย

คู่มือการบันทึกข้อมูลสำหรับ ส่ง 43 แฟ้ม

เนื่องทางกระทรวง ให้จัดให้มีการส่งข้อมูล ให้กับกระทรวงในรูปแบบ 43 แฟ้ม และ 21 แฟ้ม ดังนั่นเพื่อความสมบูรณ์ จึงขอให้ทุ รพ.สต.จัดการดำเนินการบันทึกข้อมูล ตามคู่มือด้วยนะครับ
https://docs.google.com/file/d/1VKcL_YBfOZbGA5sVxYbRkOvFI-rGS0lxjjEdH_E-RYxJ9GzOzfrh7Xp4tlu3/edit?usp=sharing

แจ้งงบค่าอินเตอร์เน๊ต

แจ้งงบค่าอินเตอร์เนตให้เบิกจ่ายจากจังหวัด(เหมือนปีที่แล้ว)รายละเอียดอยู่ในล๊อคเกอร์รับได้พรุ่งนี้เวลา09.00 น.(24 มค.2556)

แก้ไข โปรแกรมเสริม JHCIS ครับ

แก้ไข โปรแกรมเสริม JHCIS ครับ โหลดแล้ว นำไปวางทับตัวเก่าได้เรยนะครับ
- แก้ไข รายงานคัดกรอง NCD
ดาวน์โหลดตามลิ้งค์เรย https://docs.google.com/open?id=0B48bSJR9M8O2bGY0ZTNHTDJHZkU

ประชุม JHCIS ของอำเภอกุยบุรี วันที่ 14 ธ.ค.2555

ประชุม JHCIS ของอำเภอกุยบุรี วันที่ 14 ธ.ค.2555 เวลา 9.00 น.
สิ่งที่ต้องนำมา
Note Book ที่มี ฐานข้อมูล JHCIS

เกณฑ์การให้บริการ ANC  5 ครั้ง

ในการคีย์ข้อมูลสัปดาห์ ที่ไม่ควรนำข้อมูลมาคีย์เพราะข้อมูลจะไม่ตรงตามเกณฑ์ ดังนี้
1.สัปดาห์ที่ 13 - 15
2.สัปดาห์ที่ 21-23
3.สัปดาห์ที่ 29
4.สัปดาห์ที่ 35

คำแนะนำดีๆจากลุงหนวด
คำแนะนำเน้น ๆ สิ่งที่อยากให้พวกเราเตรียมในระ

ยะเร่งด่วนคือ
1.คัดกรองเบาหวาน-ความดัน โดยเน้นกลุ่ม 15-34 ปีให้อยู่ในช่วง 1 ต.ค.55-31 ธ.ค.55 นอ

กเหนือกลุ่มนี้สามารถทะยอยทำได้ถึง 30 มิ.ย.56
2.เรื่อง epi เน้น กลุ่มที่อายุครบ 1 ปี ที่เกิดในช่วง 1 ต.ค.54-31 ธ.ค.54 ให้ได้รับวัคซีน opv3 ไม่ว่าจะ Activity หรือ Coverage ในระหว่างวันที่ 1 ต.ค.55-31 ธ.ค.55 จะมีผลอย่างมากต่อการประเมินความครอบคลุมวัคซีนระดับอำเภอ
3.สำรวจเรื่องผู้พิการในเขตแล้วบันทึกลงใน JHCIS เรื่องนี้มาแน่ เตรียมไว้ก่อนเป็นดีที่สุด เวลาเค้าประกาศจะเอาข้อมูลจะได้มีส่งเลยจะได้ไม่พลาดตกรถอีก รู้ๆอยู่ว่าการสื่อสารอัพเดทของจังหวัดเราเป็นยังไง เพราะเห็นหลายที่ให้ อสม.ลงสำรวจพื้นที่ ถือโอกาสนี้ทำไปเลย
เน้น 3 อย่างนี้ก่อน นอกนั้นบันทึกตามการให้บริการปกติไป ถ้าจะเร่ง ถ้าจะเหนื่อยต้องมีเป้าหมาย

 

DIAG A09 อ่านเพิ่มได้จากลิ้งค์
http://www.tmi.or.th/docs/midyear1.pdf

ANC 5 ครั้ง

ที่มา:ลุงหนวด หมออนามัย

โรคคอตีบระบาดใน 15 จังหวัด ป่วยแล้ว 79 ราย เสียชีวิตแล้ว 4 ส่วนใหญ่เป็นเด็กอายุ 10-14 ปี ด้าน สธ. สั่งตั้งวอร์รูมควบคุมโรคใน 15 จังหวัด

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม น.พ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์ของโรคคอตีบ ว่า จากข้อมูลสำนักระบาดวิทยา ตั้งแต่ 1 มกราคม - 14 ตุลาคม 2555 พบผู้ป่วยโรคคอตีบ 79 ราย ใน 15 จังหวัด เป็นเด็กอายุ 10 - 14 ปี มากถึงร้อยละ 24 และมีผู้เสียชีวิต 4 ราย

ทั

้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข จึงได้ตั้งวอร์รูมที่ส่วนกลาง เพื่อติดตามประเมินความคืบหน้าสถานการณ์และมาตรการควบคุมป้องกันโรค ประชุมอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ส่วนในการควบคุมการระบาดของโรคคอตีบ ขณะนี้ได้ดำเนินการอย่างเข้มข้นใน 15 จังหวัด แบ่งเป็น 4 ระดับ ดังนี้

1. จังหวัดที่ต้องดำเนินการขั้นสูงสุด ได้แก่ จ.เลย เนื่องจากที่พบผู้ป่วยมากถึง 66 ราย และมีผู้เสียชีวิต 2 ราย

2. จังหวัดอื่น ๆ ที่พบผู้ป่วยยืนยันว่าติดเชื้อ ได้แก่ จ.เพชรบูรณ์ หนองบัวลำภู อุดรธานี และสุราษฎร์ธานี

3. จังหวัดที่พบผู้สงสัยว่าจะติดเชื้อ ได้แก่ จ.พิษณุโลก สกลนคร

และ 4. จังหวัดที่ ติดกับพื้นที่ที่มีผู้ป่วยหรือผู้สงสัย ได้แก่ จ.ชัยภูมิ ขอนแก่น หนองคาย เชียงราย พิจิตร อุตรดิตถ์ บึงกาฬ และน่าน

นอกจากนี้ ได้จัดทำแนวทางการตรวจวินิจฉัย การรักษาให้แก่แพทย์ พยาบาล ตลอดจนการส่งต่อผู้ป่วย และทบทวนเกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการ เพื่อเป็นแนวทางการทำงานให้กับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและโรงพยาบาล รวมถึงได้จัดหาวัคซีนเพื่อเสริมภูมิคุ้มกันส่งให้แต่ละจังหวัดแล้ว โรคนี้หากได้รับการตรวจรักษาอย่างรวดเร็วจะไม่เสียชีวิต

สำหรับโรคคอตีบนั้น เกิดจากแบคทีเรีย ชื่อ โครินแบคทีเรียม ดิพทีเรีย สามารถติดต่อกันผ่านทางเสมหะ น้ำมูก น้ำลาย เช่น การจาม หรือไอ หรือการใช้ภาชนะ ข้าวของเครื่องใช้ร่วมกับผู้ป่วย พบมากในแหล่งชุมชน หรือสถานที่แออัด เช่น สถานเลี้ยงเด็ก ส่วนใหญ่จะพบผู้ป่วยในเด็กที่อายุต่ำกว่า 10 ปี อย่างไรก็ตาม เด็กที่อายุมากกว่า 15 ปี จนถึงวัยผู้ใหญ่ก็สามารถพบผู้ป่วยได้ เพราะอาจไม่ได้ฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกัน หรืออาจไม่เคยได้รับการวัคซีนป้องกัน

ทั้งนี้ ผู้ป่วยโรคคอตีบ หลังจากเกิดการติดเชื้อ จะมีไข้สูง แต่ไม่เกิน 39 องศา ตัวร้อนรุ่ม ๆ หนาวสั่น รู้สึกเหมือนเป็นหวัด เจ็บคอ ไอเสียงแหบ กลืนอาหารลำบาก จากนั้น จะมีอาการหายใจติดขัด หอบ ชีพจรเต้นเร็ว หากตรวจบริเวณผนังด้านหลังของคอจะพบแผ่นเยื่อสีเหลืองปนเทา ซึ่งดูคล้ายเศษผ้าสกปรกติดอยู่บนทอนซิล คอหอย กล่องเสียง และลิ้นไก่ ถ้าใช้ช้อนเขี่ยแรง ๆ แผ่นเยื่อดังกล่าวจะหลุดออกมาได้ แต่จะมีเลือดออกมาด้วย

อย่างไรก็ตาม ในรายที่รุนแรง โรคคอตีบอาจทำให้เกิดการสูญเสียถึงชีวิตได้เลย เพราะมันจะทำให้ทางเดินหายใจตีบตัน จนหายใจไม่ออก และนอกจากไปอุดตันทางเดินหายใจแล้ว เชื้อโรคจากคอและหลอดลมจะปล่อยพิษออกมาในกระแสเลือด เข้าสู่กล้ามเนื้อหัวใจ และประสาทส่วนปลาย อาจทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนอย่าง "โรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ", "ประสาทอักเสบ" หรือโรคอัมพาตเนื่องจากพิษทางประสาทจนเสียชีวิต